ชิงสุกก่อนห่าม (3.93/76)
|
|
|
ชิงสุกก่อนห่าม หรือจะชิงห่ามก่อน เหี่ยว สังคมไทยแต่โบราณสอนให้ลูกหลานที่เป็นหญิงรักนวลสงวนตัวต้องอยู่ในสายตาของผู้หลักผู้ใหญ่และไม่ใกล้ชิดสนิทสนมกันจนเกินงาม จนกว่าจะถึงเวลาอันควร ที่พร้อมจะมีเหย้ามีเรือน การสอนเช่นนี้ก็เพื่อป้องกัน มิให้ลูกหลานด่วนได้ ใจเร็วปล่อยตัวปล่อยใจจนถึงขั้นได้เสีย เป็นที่ติฉินนินทาของสังคม ว่าเป็นคนประเภทที่เรียกว่า "ชิงสุกก่อนห่าม" เมื่อสังคมเปลี่ยนไป คำกล่าวดังกล่าวออกจะไม่มีความหมายมากนักในสายตาของหนุ่มสาวสมัยใหม่ บทบาทของหญิง ที่กว้างขวางขึ้นในโลกของการศึกษาและอาชีพเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดการนำเอาข้ออ้างด้านสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกันมาเป็นเหตุผลสนับสนุนในการทำตัวเองออกจากกรอบวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่เคยยึดถือกันมา จึงไม่น่าแปลกที่ในปัจจุบันหญิงสาวบางคนอาจจะบอกรักชายก่อนหรือแม้แต่จะเป็นฝ่ายเสนอ เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับชายที่ตนเองพึงพอใจ บ่อยครั้งเกิดการตั้งครรภ์อันไม่พึงปรารถนาขึ้นและเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำแท้ง ในปี พ.ศ. 2540 มีการสำรวจพฤติกรรมทางเพศของนักศึกษาในสถาบันต่างๆ พบว่าจำนวนนักเรียนนักศึกษาที่มีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการประเมินว่าประเทศไทยมีการทำแท้งสูงถึง 2-4 แสนรายต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งเยาวชน วัยรุ่น นิสิต นักศึกษาและหญิงที่มีครอบครัวแล้ว การทำแท้งเป็นการแสดงถึงความไม่ต้องการตั้งครรภ์อีกต่อไป หรือที่เรียกว่า เป็นการตั้งครรภ์อันไม่พึงปรารถนา มีสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กัน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นและเยาวชน ซึ่งมักจะมีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ใส่ใจที่จะคุมกำเนิด การที่สังคมปัจจุบันเปิดโอกาสให้วัยรุ่นใกล้ชิดกันได้มากกว่าแต่ก่อนและความจำเป็นที่ต้องออกจากนั้นมา เช่น หอพัก หรืออพาตเมนท์ห่างไกลจากสายตาพ่อแม่และครูอาจารย์ทำให้เด็กในวัยนี้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี โอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์จึงมีสูงและเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่ปรารถนาขึ้นมา ส่วนใหญ่มักลงท้ายด้วยการลักลอบทำแท้ง โดยใช้บริการของหมอเถื่อน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องกฎหมายทำแท้งในประเทศไทย การทำแท้งในคลินิกโดยแพทย์ปริญญามักมีราคาแพง วัยรุ่นส่วนใหญ่มักเป็นผู้ที่ไม่มีรายได้เป็นของตนเอง การทำแท้งโดยหมอเถื่อนที่มิใช่แพทย์แม้เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่หญิงสาวที่ไปรับบริการมักเกิดอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตและสุขภาพ เช่น ตกเลือด มดลูกทะลุ เกิดอันตรายต่อลำไส้และอวัยวะอื่นในช่องท้อง รวมทั้งการติดเชื้อ ฯลฯ บางคนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลหลายวัน ร้ายยิ่งไปกว่านั้น คือ การสูญเสียความสามารถในการมีบุตร เพราะการผ่าตัดเอามดลูกออกและมีอีกจำนวนมากที่ถึงกับเสียชีวิต สำหรับผู้ที่โชคดีรอดมาได้ก็เกิดบาดแผลทางใจเป็นความรู้สึกผิดหรือตราบาปที่ฝังใจไปตลอดชีวิต ปัญหาการชิงสุกก่อนห่ามและการทำแท้งเป็นปัญหาใหญ่และซับซ้อนเกินกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะแก้ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ทุกสถาบันที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาควรให้คำแนะนำปรึกษา เพื่อให้วัยรุ่นชายหญิงมีพัฒนาการทางเพศอย่างถูกต้อง เหมาะสม รู้จักประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบจารีตประเพณีอันดีงามเพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคมและประเทศชาติ บทความนี้นำมาจาก http://www.DoctorSan.com |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
pop! - อ่านมากกว่า 5,000 ครั้ง cool! - อ่านมากกว่า 10,000 ครั้ง Too Hot! - อ่านมากกว่า 30,000 ครั้ง